ปัจจุบัน กาพ่นสี ได้รับความนิยมในงานอุตสาหกรรมอย่างมากมาย เพราะสามารถใช้แทนแปรงทาสีหรือลูกกลิงได้ ช่วยให้งานเร็วขึ้นเหมาะสำหรับงานพื้นที่ขนาดใหญ่ช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย แถมยังช่วยปกปิดพื้นผิวที่ขรุขระไม่เรียบ หรือบริเวณพื้นที่ที่เข้าไปได้ยาก ก็สามารถใช้กาพ่นสีได้
การเลือกกาพ่นสี สิ่งสำคัญคือต้องเลือกทีเหมาะกับงาน โดยกาพ่นสีทั่วไปมีประเภทในการใช้งาน ทั้งแบบ สุญญากาศ และแรงดันสูง แรงดันต่ำ เครื่องพ่นไร้อากาศมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ดึงสีขึ้นมาและดันออกจากหัวฉีดที่แรงดันสูง ส่วนเครื่องพ่น HVIP จะพ่นสีภายใต้แรงดันต่ำเพื่อสร้างสีสเปรย์ที่มีความละเอียดกว่า
กาพ่นสีแบ่งออกได้ 3 ประเภทหลักดังนี้
กาพ่นสีสุญญากาศ
มีหลากหลายรุ่นมีขนาดตั้งแต่ เล็กแบบใช้มือ ไปจนถึงขนาดใหญ่สำหรับมืออาชีพ เหมาะสำหรับพื้นผิวภายนอกที่มีขนาดเล็กภึงใหญ่ อาทิเช่น รัว ไม้เลื่อย เพิง กระดานสภาพอากาศ ศาลา ระแนง และผนัง และสีน้ำมัน ไพรเมอร์ ทับหน้า สีอลูมิเนียม
กาพ่นสีลม
กาพ่นลมแบบใช้ลมอัดในการพ่นสีกับพื้นผิว ทำให้ผื้นผิวมีความเรียบเนียนและสีดูสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการพ่นสีบนเฟอรนิเจอร์และตู้ แต่ข้อเสียคือกาพ่นสีแบบลมอัดจะมีความเลอะเทอะของสีที่เกินออกมาจากการพ่นมากเกินไปในบางรุ่น
กาพ่นสี HVLP
จะใช้สีในปริมาณที่มากในการพ่น สีจะเคลือบช้าเพื่อให้สีติดกับพื้นผิวมากขึ้น ทำให้เกิดพื้นผิวที่เรียบเนียน ราคาจะค่อยข้างสูงกว่ากาพ่นประเภทอื่น ๆ เหมาะสำหรับงานโครงการตกแต่งภายใน
การเลือกซื้อกาพ่นสี
- ปรับกระแสได้
- ระยะเวลาการรับประกันของตัวกาพ่นสี
- หัวฉีดสามารถปรับได้ และสามารถปรับลักษณะการพ่นได้ทั้งทรงกลม แนวนแน หรือแบบเข้มข้น
- ความจุของถ้วยสี